น.ส.ณัทสุดา พุกกะณะสุต ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเวสทรี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า อินเวททรี เป็นสตาร์ทอัพทำแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิง ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้มีเงินทุนและกระแสเงินสดทำธุรกิจผ่านการออกหุ้นกู้ โดยจะเป็นตัวกลางช่วยเอสเอ็มอีออกหุ้นกู้และให้นักลงทุนเข้ามาซื้อระดมทุน ได้รับผลตอบแทน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแหล่งเงินทุนนอกจากสถาบันการเงินที่บางรายบางจังหวะไม่ให้สินเชื่อเอสเอ็มอี จึงหาที่พึ่งกู้นอกระบบ ทำให้คราวด์ฟันดิงได้มาแก้ปัญหาในส่วนนี้
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกเอสเอ็มอีที่จะมาขอออกหุ้นกู้ ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ทำธุรกิจมาแล้ว 1-2 ปี มีคู่ค้าที่ดีหรือมีใบแจ้งหนี้ มีธุรกรรมซื้อขายบนระบบออนไลน์ และมีโอกาสไปต่อถ้าได้รับเงินทุน กำหนดหุ้นกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย ในปีแรกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดไม่เกิน 20 ล้านบาท ดอกเบี้ยเฉลี่ย 14-15% โดยมีอยู่ในแผนออกหุ้นกู้เอสเอ็มอี 20 ราย เริ่มจากสัปดาห์หน้าหุ้นกู้ของเอสเอ็มอีธุรกิจโลจิสติกส์มูลค่า 5 แสนบาท อายุ 1 เดือน
ส่วนนักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นกู้นี้จะต้องมีความรู้ความเข้าใจและรับความเสี่ยงได้ สามารถใช้เงินขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท ทำให้กระจายการลงทุนไปให้กับนักลงทุนรายย่อย โดยเกณฑ์ ก.ล.ต. ยังจำกัดให้นักลงทุนรายย่อยที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถลงทุนได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อหุ้นกู้ และลงทุนบนระบบคราวด์ฟันดิงทั้งหมดไม่เกิน 1 ล้านบาท จากปัจจุบันมี 4 แพลตฟอร์ม ขณะที่นักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูง นิติบุคคลหรือมีบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนสามารถลงทุนได้ไม่จำกัดวงเงิน
“เอสเอ็มอีเป็นเส้นเลือดฝอยของระบบเศรษฐกิจไทย แต่โอกาสเข้าถึงสินเชื่อของเอสเอ็มอี กลับมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของจีดีพี ขณะที่สินเชื่อภาคธุรกิจมีถึง 85% ของจีดีพี จะเห็นว่ามันมีเครดิต แก็ป ที่ใหญ่มากในระบบการเงินไทย ซึ่งเป็นแบบนี้ในหลายประเทศเช่นกัน ซึ่งอยากให้นักลงทุนลองคิดดูว่า ถ้าคุณมีเงินพร้อมลงทุน เข้าใจความเสี่ยงของเอสเอ็มอี และอยากช่วยเอสเอ็มอีที่มีความพร้อมให้ผลตอบแทนนักลงทุนที่เหมาะสม อินเวสทรีก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน”
นายวรกร สิริจินดา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อินเวสทรี ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า หุ้นกู้ที่ออกให้เอสเอ็มอีมีอายุตั้งแต่ 1 เดือน–2 ปี ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ช่วงโควิด-19 อินเวสทรีจำกัดให้อายุไม่เกิน 1 ปี เพื่อลดความเสี่ยงให้นักลงทุน โดยยังมีระบบจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ขอออกหุ้นกู้ คำนวณจากความสามารถในการชำระหนี้ของกิจการ เพื่อช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนสูงสุดอาจถึง 26% ต่อปี เทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ผลตอบแทนไม่สูงนัก แต่ความผันผวนเฉลี่ยสูงถึง 30% โดยทุกการลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน และต้องกระจายการลงทุน